หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

คำว่าเพื่อน

คำว่าเพื่อน

เพื่อนคือ...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ยิ่งกว่าแฟนก้อว่าได้ ไม่ตามใจมัน ก็ไม่ด่า
แต่ถ้ามันไม่ตามใจ เราก็ด่าได้ โดยที่มันและเราไม่โกรธกัน
เพื่อนเมื่อโกรธกันสามารถกลับมาคืนดีกันได้ โดยไม่ต้องเก็บความสงสัยว่า เรื่องที่โกรธกันคืออะไร ผ่านแล้วก็ผ่านไป

เพื่อนคือที่พึ่ง ยามเป็นทุกข์
เพื่อนคือที่ปรึกษา ตั้งแต่เรียน ทำงาน จนจะแต่งงานก็ยังต้องปรึกษามัน
เพื่อนคอยสับรางเวลารถไฟจะชน
เพื่อนคอยโกหกพ่อแม่เวลาไปเที่ยวแต่บอกว่าไปทำงาน
เพื่อนคอยบอกแฟนว่าเรากำลังอยู่กับมัน ทั้งที่จริงเราไม่ได้อยู่กับมันหรอก
และเพื่อนก็คือ คนจ่ายค่าข้าวเวลาเราไม่มีเงิน


"เพื่อน" คือ ทุกอย่าง มีผู้ที่เคยคบกันถามว่าจะให้เลือก หนึ่งเดียว ระหว่างเค้าซึ่งคบกันมา 1 ปี
กับเพื่อนซึ่งคบมาประมาณ 15 ปี ว่าคุณจะเลือกใคร ตอบแบบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่า "เพื่อน"
ซึ่งเค้าก็บอกว่าตอบผิดตอบใหม่ได้นะ


เราก็บอก ว่าตอบถูกแล้ว เพราะเค้าเห็นว่าเรารักเพื่อนมากกว่า แต่ไม่ใช่ ถ้าเราจะต้องเอาคนเข้ามา ในชีวิตอีก 1 คน
ซึ่งก็ยังไม่รู้อะไรกันมาก กับเสียคนที่เรารู้จกกันมาเป็น 10 ปี เราว่าทุกคน ก็ต้องมีคำตอบเหมือนกับเรา เพราะทั้งสำหรับคนทั้งสองกลุ่ม เราไม่สามารถเอาแต่ละคน มาบวกและลบกันเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นศูนย์


เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเลือกสิ่งที่มีค่ามากกว่า และสิ่งที่เราเลือก สิ่งนั้นก็คือ ''เพื่อน''

"some time happy… some time sad… but all time friend "

บทส่งท้าย ถ้าเราสนุก ไปเที่ยวโดยไม่มีเพื่อน แล้วเล่า ให้มันฟัง มันก็ไม่ว่าอะไร....แล้วถ้าเราเที่ยวแล้วเกิดปัญหา
เราตามตัวมันมามันเคยพูด

ไหมว่า "กูไม่สนมึงเที่ยวแล้วไม่ชวนกู มึงแก้ไขเองแล้วกัน"
คำพูดอย่างนี่ จะไม่มีจากปาก เพื่อน จะมีแต่คำว่า " มึงอยู่ตรงไหน มึงเป็นอะไรว่ะ"

แล้วก็ลงท้ายว่า "เออตกลงกูจะรีบไป..."


อ้างอิง
http://artsmen.net/content/show.php?Category=friendsboard&No=4318

การบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์

การบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์


1 การ Defrag ฮาร์ดดิสก์ เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของระบบ สำหรับ Windows XP
1. ดับเบิ้ลคลิกที่ My Computer คลิกขวาไดร์ฟที่ต้องการทำ Defragment เลือก Properties

2. คลิกที่แท็บ Tools จากนั้นคลิกที่ Defragment Now...

3. คลิกที่ Defragment

4. จากนั้นให้รอ เครื่องจะทำการ Defragment ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน

5.เมื่อเครื่อง Defragment เสร็จเครื่องจะแจ้งให้ทราบถ้าต้องการดูรายละเอียดต่าง ๆ ของการ Defragment ให้คลิกที่ View Report ถ้าไม่ต้องการก็ให้คลิกที่ Close

หมายเหตุ
• การทำ Defragment ให้ทำการ Disk Cleanup และ Scan Disk ก่อน ถ้าทำไม่ผ่านให้ทำใน Saft Mode


2 การ Disk Cleanup สำหรับลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจาก ฮาร์ดดิสก์ สำหรับ Windows XP
1. คลิกที่ Start > Program > Accessories > System Tools > Disk Cleanup

2. เลือกไดร์ฟที่ต้องการทำ Disk Cleanup แล้วคลิก OK

3. คลิกเครื่องหมายถูกไฟล์ที่ต้องการลบ แล้วคลิก OK

4. ยืนยันการลบคลิก Yes

ทำอย่างนี้ในทุก ๆ ไดร์ฟที่ต้องการลบ


3 การ Scan Disk สำหรับตรวจสอบข้อผิดพลาดของ ฮาร์ดดิสก์ สำหรับ Windows XP
1. ดับเบิ้ลคลิกที่ My Computer คลิกขวาไดร์ฟที่ต้องการทำ Scan Disk เลือก Properties

2. คลิกที่แท็บ Tools จากนั้นคลิกที่ Check Now…

3. คลิกเครื่องหมายถูกที่ Scan for and attempt recovery of bad sectors แล้วคลิก Start

4. รอสักครู่เครื่องจะทำการ Scan Disk

5. เมื่อเครื่องทำการ Scan Disk เสร็จก็จะรายงานได้ทราบ ให้คลิก OK

หมายเหตุ
• ขณะที่ทำการ Scan Disk ไม่ควรเปิดโปรแกรมใด ๆ
• Automatically fix errors เป็นการกำหนดให้ทำการแก้ไขปัญหาที่พบโดยอัตโนมัติ เมื่อพบข้อผิดพลาดขึ้น

สุขภาพกายและสุขภาพจิต

โดยธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นในชีวิตก็จะพยายามหาทางแก้ปัญหา

ด้วยตัวเอง เป็นอันดับแรก เมื่อรู้ว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้เองก็จะแสวงหาความช่วยเหลือ

จากผู้อื่น ในเรื่องความเจ็บป่วย หรือปัญหาสุขภาพก็เช่นเดียวกัน ทุกคนต้องการที่จะดูแล

ตนเองให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ ดังนั้น กล่าวได้ว่า "การดูแลสุขภาพตนเอง เป็นกิจกรรมที่

บุคคลแต่ละคนปฏิบัติ และยึดเป็นแบบแผนในการปฏิบัติ เพื่อให้มีสุขภาพดี"อาจแบ่ง

ขอบเขตการดูแลสุขภาพตนเอง เป็น 2ลักษณะคือ



- การดูแลสุขภาพตนเองในสภาวะปกติ


เป็นการดูแลสุขภาพตนเอง และสมาชิกในครอบครัว ให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์

อยู่เสมอ ได้แก่ การดูแลส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง สามารถดำเนินชีวิต

ได้อย่างปกติสุข เช่น การออกกำลังกาย การสร้างสุขวิทยาส่วนบุคคลที่ดี ไม่ดื่มสุรา

ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การป้องกันโรค เพื่อไม่ให้เจ็บป่วย

เป็นโรค เช่น การไปรับภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ การไปตรวจสุขภาพ การป้องกันตนเองไม่ให้

ติดโรค



- การดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่วย


ได้แก่ การขอคำแนะนำ แสวงหาวามรู้จากผู้รู้ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขต่างๆ

ในชุมชน บุคลากรสาธารณสุข เพื่อให้ได้แนวทางปฏิบัติ หรือการรักษาเบื้องต้นให้หาย

จากความเจ็บป่วย ประเมินตนเองได้ว่า เมื่อไรควรไปพบแพทย์ เพื่อรักษาก่อนที่จะเจ็บป่วย

รุนแรง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข เพื่อบรรเทาความ

เจ็บป่วย และมีสุขภาพดีดังเดิม


การที่ประชาชนทั่วไปสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้นั้น จำเป็นต้องมีความรู้

ึความเข้าใจในเรื่อง การดูแลสุขภาพ ตั้งแต่ยังไม่เจ็บป่วย เพื่อบำรุงรักษาตนเองให้สมบูรณ์

แข็งแรง รู้จักที่จะป้องกันตัวเอง มิให้เกิดโรค และเมื่อเจ็บป่วยก็รู้วิธีที่จะรักษาตัวเอง

เบื้องต้นจนหายเป็นปกติ หรือรู้ว่า เมื่อไรต้องไปพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข




- การปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน


สุขภาพของคนเราจะดีหรือเสื่อมนั้น ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์แข็งแรงองอวัยวะต่างๆ

เช่น ผิวหนัง ตา หู จมูก และฟัน ซึ่งเป็นอวัยวะภายนอกร่างกาย ที่เราควรดูแลรักษาให้อยู่

ในสภาพที่ดี และแข็งแรง เพราะถ้าเสื่อมโทรม หรือผิดปกติ จะส่งผลกระทบต่ออวัยวะ

ส่วนอื่นๆ ได้ ดังนั้น เราต้องระวังรักษาส่วนต่างๆ ของร่างกายให้สะอาด ตลอดจนการออก

กำลังกาย และการพักผ่อน เพื่อทำให้ร่างกายมีความสมบูรณ์ แข็งแรง และมีผลทำให้

จิตใจเบิกบาน แจ่มใส สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ อย่างมีความสุข


การดูแลสุขภาพตนเอง ให้มีสุขภาพสมบูรณ์ และแข็งแรงอยู่เสมอ จะต้องปฏิบัติ

ิกิจกรรม ในด้านการส่งเสริมสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ในชีวิตประจำวัน




อ้างอิง
http://pirun.ku.ac.th/~b5043107/page2.html

โลกสวยด้วยมือเรา

โลกร้อนแก้ไขได้! ด้วย 10 วิธี
ทำให้โลกเย็นลงเพียงพอ

1.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า หลังเลิกใช้
เหตุผล: ช่วยประหยัดไฟ และทำให้เราไม่ต้องสร้าง โรงไฟฟ้าถ่านหิน
เพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบัน ถ่านหินคือตัวการสำคัญที่ทำให้โลกร้อน
มากเป็นอันดับ 1 ผลที่ได้รับ: ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ได้หลายร้อย
กิโลกรัมต่อปี และที่สำคัญคือ ต้องถอดปลั๊กไฟออกด้วยทุกครั้ง จะทำ
ให้ประหยัด ค่าใช้จ่ายได้ถึง 4,000 บาทต่อปี

2.เปลี่ยนหลอดไส้ เป็นหลอดตะเกียบ
เหตุผล: จะทำให้เราไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มมากขึ้น เพราะ
ปัจจุบัน ถ่านหิน คือตัวการสำคัญ ที่ ทำให้โลกร้อนมากเป็นอันดับหนึ่ง
ผลที่ได้รับ: การเปลี่ยนเป็นหลอดประหยัดไฟ จะช่วยประหยัดไฟ
ได้ 3-5 เท่า และยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดธรรมดา
ถึง 10 เท่า เท่ากับลดการใช้พลังงานได้ถึงร้อยละ 80 และประหยัดเงิน
ได้ 738 บาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ได้
ถึง 295 กิโลกรัมต่อปี

3.ตั้ง อุณหภูมิแอร์ ที่ 25 ํC
เหตุผล: เพื่อไม่ให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก ซึ่งจะทำให้สูญเสีย
พลังงานโดยเปล่าประโยชน์ ผลที่ได้รับ:ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ไดออกไซค์ได้ถึง 900 กิโลกรัมต่อปี และยังประหยัดพลังงานได้ 2.4 หน่วย

4.ลดใช้เครื่องทำน้ำร้อน
เหตุผล: เครื่องทำน้ำร้อนเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมาก ผลที่ได้รับ: ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ได้ถึง 300 กิโลกรัมต่อปี

5.ติดฉนวนกันความร้อนในบ้าน เหตุผล:
เพราะการติดตั้งฉนวนกันความร้อน จะทำให้เครื่องปรับอากาศ
ไม่ทำงานหนัก และช่วยประหยัดพลังงาน ผลที่ได้รับ:
จะช่วยประหยัดพลังงานในบ้านได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์

6.ปลูกต้นไม้ยืนต้น เหตุผล:
ต้นไม้ 1 ต้น ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ได้ 1 ตัน
ตลอดอายุของต้นไม้

7.เพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์รีไซเคิล เหตุผล:
เพราะในการผลิตกระดาษหรือพลาสติกแบบรีไซเคิล
ใช้พลังงาน ในการผลิตเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ผลที่ได้รับ:
การใช้ผลิตภัณฑ์ รีไซเคิล จะช่วยลดปริมาณขยะได้ถึงปีละ 1,450 ตัน
ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ได้ 1 ตันต่อปี

8.เลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัวคนเดียว เหตุผล:
เพราะน้ำมัน คือแหล่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซค์ที่สำคัญ โดยมีสัดส่วน
มากถึงร้อยละ 40 ทางแก้ไข: ควรจัดระบบ car pool รวมทั้งหันมา
ใช้จักรยาน รถขนส่งมวลชน หรือเดินให้มากขึ้น
เพราะจะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ได้ถึง 1,000 ตัน
ต่อวัน (ต่อปริมาณรถในกทม. 5.5 ล้านคัน)นอกจากนี้รถขนส่งมวลชน
ยังมีประสิทธิภาพทางพลังงานมากกว่ารถยนต์ส่วนตัวถึง 3 เท่า
และยังช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ได้ถึง 8 เท่าอีกด้วย

9.เลือกซื้อของที่ผลิตในประเทศ เหตุผล:
เพราะการซื้อสินค้าต่างประเทศต้องสิ้นเปลืองพลังงานในการขนส่ง
บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่าย ผลที่ได้รับ: การใช้ของที่ผลิตในประเทศ
จะช่วยลดค่าหีบห่อและค่าขนส่ง ทำให้สามารถลดปริมาณก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซค์ที่จะเกิดขึ้น และเงินตราไม่ รั่วไหลอีกด้วย

10.กินผักแทนเนื้อสัตว์ให้มากขึ้น เหตุผล:
การทำปศุสัตว์ คือแหล่งที่ทำให้เกิดก๊าซมีเทนไม่ว่าจะเป็นการแผ้วทาง
พื้นที่ป่าเพื่อทำฟาร์มปศุสัตว์ หรือ การขับถ่ายของเสียจากสัตว์ล้วนทำ
ให้เกิดการแพร่กระจายของก๊าซเรือนกระจก ในชั้นบรรยากาศ ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ผลที่ได้รับ: ถ้าเราลดการผลิตเนื้อสัตว์ทุก ๆ 1 กิโลกรัมจะลดการปล่อยก๊าซ
เรือนกระจกเท่ากับคาร์บอนไดออกไซค์ ได้ 3-4 กิโลกรัม



อ้างอิง
http://www.gmmcoolearth.com/#

เหนื่อยบ้างไหมที่เดินมาถึงวันนี้

เหนื่อยบ้างไหมที่เดินมาถึงวันนี้

เหนื่อยบ้างไหมที่เดินมาถึงวันนี้
อาจอ่อนล้าเบื่อบ้างเป็นบางที
อย่าท้อเลยคนดีขอให้ทน

อนาคตสดใส ในภายหน้า
กำลังมาตามเวลา อย่าสับสน
แม้อาจเคยผิดหวังกับบางคน
จะผ่านพ้นไปได้ในสักวัน

อนาคตเป็นอย่างไร ใครจะรู้
แต่ให้สู้เพื่อไปสู่สิ่งที่ฝัน
แม้เวลาอาจพาใจให้ลืมกัน
สำหรับฉันไม่มีวันจะเปลี่ยนไป

หากเธอหาแห่งใดเป็นที่พึ่ง
ยามเมื่อถึงจุดหนึ่งซึ่งหวั่นไหว
ยังมีฉันคนนี้นะคนไกล
คนที่เป็นคนใกล้…ทีไกลเธอ



อ้างอิง
http://www.baanmaha.com/community

ดอกกุหลาบ

สีกุหลาบสื่อความหมาย

สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปราถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ

สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์

สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง

สีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ

สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

สีส้มสื่อความหมายถึง ฉันรักเธอเหมือนเดิม

กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย

ความหมายอื่น

กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) "เธอช่างมีเสน่ห์งามเหลือเกิน"

กุหลาบตูมสีแดง "ฉันเริ่มรักเธอแล้วจ้ะ"

กุหลาบบานสีแดง "ฉันรักเธอเข้าแล้ว"

กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว"

กุหลาบตูมสีขาว "เธอช่างไร้เดียงสาน่าทนุถนอมเหลือเกิน ฉันรักเธอ"

กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว "เสน่ห์ของเธอมันเริ่มลดน้อยถอยลงแล้วนะจ๊ะ"

อ้างอิง
http://hilight.kapook.com/view/17583